5 ขั้นตอนสกัดความมันให้อยู่หมัด !!

จะวัยรุ่นหรือวัยทำงาน อาการหน้ามันเยิ้มในระหว่างวันถือเป็นเรื่องกวนใจอันดับต้นๆ ของสาวๆ รองจากปัญหาสิวและความหมองคล้ำเลยก็ว่าได้ แถมปัญหาหน้ามันยังเป็นต้นเหตุหนึ่งของการอุดตันของไขมันส่วนเกินบนชั้นผิวอันก่อให้เกิดสิวและปัญหาเมกอัพไม่ติดผิวอีกด้วย อย่าแก้ปัญหาหน้ามันแบบผิดๆ fall in love hensica ขอเสนอแนะวิธีที่จะช่วยให้สาวๆ ปราบพยศความมันได้แบบง่ายดาย

1.  อย่าล้างหน้าบ่อยเกินความจำเป็น

หลายคนเชื่อว่าเมื่อหน้ามันก็ควรจะล้างหน้าเพื่อทำความสะอาดผิวให้สะอาดหมดจดบ่อยๆ ในระหว่างวัน แต่รู้ไหมว่าวิธีนี้จะทำให้ผิวหนังของเราสับสนและคิดว่าต้องขับน้ำมันหล่อเลี้ยงผิวตามธรรมชาติออกมาเพื่อเติมความชุ่มชื้นให้ผิวอยู่ตลอดเวลา ส่งผลให้ใบหน้ายิ่งมีความมันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นการล้างหน้าวันละสองครั้งเช้าเย็นนั้นเพียงพอแล้ว หากระหว่างวันใบหน้ามันมากแนะให้ใช้กระดาษหรือแผ่นฟิล์มซับความมัน ซับเบาๆ เพียงเล็กน้อยก็พอ (อย่ากดหนักหน่วงมากไป จะไปกระตุ้นให้ผิวยิ่งผลิตน้ำมันออกมาอีก) อาจเป็นเรื่องไม่น่าเชื่อแต่สาวผิวแห้งบางคนทำความสะอาดผิวหน้ามากเกินไปจนผิวเกินความแห้งตึง ส่งผลให้ผิวขับน้ำมันออกมาเคลือบผิวตามกลไกแบบอัตโนมัติ จนเจ้าตัวเข้าใจว่าตนเองมีผิวมันจนเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและบำรุงผิวที่ไม่ตรงกับสภาพผิวจริงๆ

2. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์สูตรควบคุมความมันหรืออยล์ฟรี

ชื่อก็บอกอยู่เเล้วว่าควบคุมความมัน เพราะผลิตภัณฑ์เหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อคนผิวมันโดยเฉพาะ ส่วนใหญ่จึงปราศจากส่วนผสมของน้ำมันหรือที่เรียกกันว่าสูตรออยล์ฟรี โดยมักมีน้ำเป็นองค์ประกอบหลักเป็นเบส ผิวจึงได้รับความชุ่มชื้นที่ไม่ใช่น้ำมันมาเพิ่มเติมความมันที่มีอยู่เดิม

3. ลองสังเกตผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่ใช้กับผิวส่วนใกล้เคียงใบหน้า

สาวบางคนมีความมันเกิดขึ้นเฉพาะกรอบใบหน้า รอบไรผมหรือข้างแก้ม ทีนี้ลองหยิบผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผมและผลิตภัณฑ์ตกแต่งทรงผมที่ใช้ประจำขึ้นมาดูสิว่าส่วนผสมของน้ำมันอยู่ด้วยหรือเปล่า หลายคนใช้แชมพู มูส แวกซ์หรือสเปรย์ที่มีละอองของน้ำมันผสมอยู่ นี่ก็อาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาผิวมันได้เมื่อเส้นผมสัมผัสผิวใบหน้า ลองเลือกผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากส่วนผสมของน้ำมันหรือสูตรจากธรรมชาติมาใช้เพื่อแก้ไขปัญหานี้

4. เลือกเติมหน้าด้วยแป้งฝุ่นบางเบา

ในระหว่างวัน หากสาวๆ อยากเติมเมกอัพที่ดูจางลง ขอแนะให้เป็นแป้งฝุ่นชนิดโปร่งแสง Translucent จะดีกว่าการใช้แป้งผสมรองพื้นที่มีอณูความหนาและหนักของเม็ดแป้งที่มากกว่า การใช้แป้งฝุ่นปัดไล้เบาๆ หรือซับแตะๆ เพียงเล้กน้อยก็ช่วยลดความมันบนใบหน้าได้ดีเพียงพอ การเติมแป้งอัดแข็งอาจยิ่งทำให้ผิวรู้สึกหนาและหนัก ผิวหายใจได้ไม่ดี

5. อาหารการกินและการพักผ่อนก็สำคัญ

แม้จะไม่มีผลวิจัยออกมายืนยันชัดเจนว่าการรับประทานอาหารประเภททอดหรือใช้น้ำมันมากๆ นั้นจะส่งผลให้ผิวหน้ามันไปด้วย แต่การเลือกกินในปริมาณที่พอดีย่อมดีกว่า หันมาเน้นการกินผักและผลไม้ที่อุดมไปด้วยกากใยและวิตามินเพื่อช่วยให้ผิวสมดุลจากภายใน เปล่งปลั่งสู่ภายนอกย่อมดีที่สุด และที่ขาดไม่ได้เลย คือ การดื่มเปล่าน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 10 - 12 แก้ว เพื่อช่วยให้ระบบต่างๆ ภายในร่างกายทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ นอกจากนี้การพักผ่อนนอนหลับอย่างเพียงพอก็เป็นตัวแปรที่ทำให้ผิวแข็งแรงและมีสมดุล ลองสังเกตดูสิ ช่วงไหนสาวๆ เรียนหนักหรือมีความเครียดสะสม ผิวหน้าอาจจะมีความมันมากกว่าปกติ แถมยังดูหมองคล้ำไม่สดใส หากตอนกลางคืนสาวๆ นอนไม่เพียงพอในระหว่างวันลองหาช่วงว่างเพื่องีบเป็นระยะเวลาสั้นๆ สัก 15 - 20 นาทีดูสิ วิธีนี้จะทำให้สมองปลอดโปร่งโล่งขึ้น ความหมองคล้ำของผิวก็จะลดน้อยลง และเพื่อให้ผิวพรรณสดใสยิ่งขึ้นการออกกำลังกายเบาๆ วันละ 25 นาทีก็ช่วยให้ผิวพรรณสดใสขึ้นพร้อมสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง หรืออยากมีผิวพรรณดีแบบถึงขีดสุด  ขอแนะให้สาวๆ ลองนั่งสมาธิวันละ 15 นาทียามเช้าก่อนเริ่มต้นวันใหม่ เชื่อไหมว่าการนั่งสมาธิทุกวันอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ผิวพรรณสดใสได้ดีเป็นผลพวงมาจากจิตใจที่สุขสงบยังไงล่ะ 

เป็น 5 ข้อ ที่ทำได้ง่ายๆ แถมได้ผลจริง สาวหน้ามันทั้งหลายลองดูนะ จะได้มีผิวสวยสดใสไปด้วยกัน